Specialized Turbo E-bike จักรยานไฟฟ้าจากสเปเชียลไลซ์ด

ในเมื่อกระแสของการใช้จักรยาน "บูม" มากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเชื้อเพลิงและพลังงานเป็นปัญหาไปทั่วโลก จักรยานจึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกหันมาให้ความสนใจมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาการใช้งาน ให้มีความสะดวกเหมาะแก่คนทุกเพศวัย โดยอาศัยพลังงานทางเลือกมาเชื่อมโยงกัน แม้แต่ค่ายจักรยานระดับแข่งยังไม่อาจจะมองข้าม

เปิดตัวล่าสุดสำหรับจักรยานไฟฟ้าที่ผสมผสานงานออกแบบ จากวิศวกรระดับจักรยานแข่งของค่ายสเปเชียลไลซ์ด (Specialezed) ซึ่งมุ่งเน้นสามปัจจัยหลักในการออกแบบจักรยานไฟฟ้า คือ พลังงาน มอเตอร์ และระบบไฟ้ฟ้า ซึ่งสามารถผสมผสานความลงตัวกับอุปกรณ์จักรยานที่มีอยู่ทั่วไปในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้จักรยานที่ออกแบบมาสำหรับการพาณิชย์นี้ สามารถนำไปใช้งานได้จริง และสะดวกต่อการบำรุงรักษา

จึงเกิดเป็นจักรยานในรุ่น เทอร์โบ อีไบค์ (Turbo E-bike) ขึ้น โดยใช้วัสดุอัลลอยมาผลิตเป็นเฟรม ซึ่งออกแบบองศาและมุมต่างๆ สอดคล้องกับการใช้งานในระดับทำความเร็วได้ถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดเด่นคือท่อล่าง ถูกออกแบบให้รองรับการวางตำแหน่งของแบตเตอรี่ ที่กลมกลืนเข้ารูป ลักษณะเดียวกับท่อแบบโอเวอร์ไซด์

จัดวางชุดแบตเตอรี่อย่างเข้ารูป และมีระบบกุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย ที่ด้านบนมีช่องสำหรับต่อพ่วงสายชาร์ตพลังงาน ใช้ระบบแม่เหล็กเพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งาน (แบบเดียวกับระบบสายไฟฟ้าของ Apple กับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac Book) ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเตะสายไฟฟ้าขณะกำลังชาร์ต เพราะมันจะหลุดออกจากขั้วที่ตัวรถได้ง่าย รถไม่ล้มระเนระนาดตามแรงสะดุด

เหนือแบตเตอรี่มีปุ่ม LED แสดงปริมาณของไฟฟ้าที่บรรจุอยู่ และยังมีอุปกรณ์เทอร์โบชาร์ต เพื่อช่วยให้การบรรจุไฟฟ้าเข้าไปใหม่ในแต่ละคร้ังจนเต็มนั้น ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง (ตื่นเช้าเสียบสายชาร์ตทิ้งไว้ ทำภารกิจส่วนตัวพร้อมทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ปลดสาย ปั่นออกไปข้างนอกได้พอดิบพอดี)

เนื่องจากพลังงานที่ถูกใช้ออกมานั้น ช่วยเสริมให้การออกแรงปั่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นส่วนประกอบต่างๆ จึงต้องออกแบบให้สอดคล้องกัน เช่น ระบบเบรกแบบดิสก์ ซึ่งใช้ใบดิสก์ขนาดใหญ่ 180 ซม. ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเฉพาะล้อหลัง ประกบติดกับดุมล้อที่มีมอเตอร์ความเร็วสูงอยู่ภายใน (กันน้ำ) ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับชุดเฟืองหลังแบบปกติทั่วไป

ชุดขับเคลื่อนที่ใช้เลือกเป็นของ SRAM X0 แบบ 10 สปีด และชุดมือเบรกเป็นคาร์บอน เดินสายเบรกและเกียร์ซ่อนในตัวเฟรม เพื่อความสวยงามและสะดวกต่อการใช้งาน อีกทั้งมอเตอร์มีระบบ Regenerative ทำให้ทุกครั้งที่กดเบรก มอเตอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวชาร์ตไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่อีกครั้ง

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งาน โดยแสดงข้อมูลเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ติดจักรยานทั่วไปแบบไร้สาย แต่เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้า และรองรับการเชื่อมสัญญาณข้อมูลแบบ ANT+ ทำให้ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เช่น อุปกรณ์วัดอัตราการเต้นหัวใจขณะปั่นจักรยาน (Heart rate) เป็นต้น

ไม่เพียงแต่รูปร่างของการออกแบบเท่านั้นที่สวยงาม น่าใช้ แต่การออกแบบที่เลือกให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ทั่วไปได้ กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ต่อการเลือกนำไปใช้งาน อย่างไรก็ตาม.. เบื้องต้นนี้ เทอร์โบ อีไบค์ จะถูกผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศสเปน และจะขยายสู่ประเทศอื่นต่อไป