สองน่อง ล่องแพที่เมืองกาญจน์
[ประชาสัมพันธ์] ชมรมจักรยานเพื่อคุณภาพชีวิตร่วมกับชมรมจักรยานมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ชวนปั่นจักรยานท้าแสงแดด และสายลม ชมธรรมชาติวิถีสายน้ำแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ล่องแพ เล่นน้ำ ลองค้นหาประสบการณ์การเดินทางด้วยสองน่อง จากกรุงเทพฯไปโพธารามถึงกาญจนบุรี
กิจกรรมครั้งนี้เป็นทริปปั่นจักรยานทางไกล ปั่นท่องเที่ยวกัน 5 วันเต็มอิ่ม โดยมีค่าใช้จ่ายท่านละ 2,100 บาท อ่านรายละเอียดด้านล่าง.. สามารถสมัครร่วมทริปได้ที่..
อาจารย์แชล่ม 089-5238503 หรือคุณอัมพร 081-9200454 รับเพียง 30 ท่านเท่านั้น
ที่มา : http://goo.gl/7ptMrw
สองน่อง ล่องแพที่เมืองกาญจน์
1-5 พฤษภาคม 2558
1-5 พฤษภาคม 2558
วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2558
06:30 น. พบกันที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี) หรือ สายใต้ใหม่ ทานอาหารเช้าตามอัธยาศัย
07:30 น. ล้อหมุนออกเดินทางตามเส้นทางมุ่งสู่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมืองเล็กๆ ซึ่งผู้คนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย หรือที่เรียกว่าเนิบช้า เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชวนให้น่าลองมาสัมผัสดู ปั่นสบายๆ แวะพักเป็นระยะๆ อาหารกลางวันระหว่างทางตามอัธยาศัย
14:00 น. ถึงที่พัก บ้านโพธิ์ สุขพันธ์โพธาราม ที่พักแนวย้อนยุคแบบดั้งเดิมของแท้ อันเงียบสงบ ซึ่งถูกปรับโครงสร้างจากโรงเรียนประถมมาเป็นโรงแรมที่มากด้วยเสน่ห์แบบไม่เหมือนใคร เก็บสัมภาระเข้าที่พัก อาจารย์แชล่มรอต้อนรับ แล้วนำปั่นชมวิถีชีวิตชาวโพธาราม ชมธรรมชาติลัดเลาะเลียบแม่น้ำแม่กลอง แวะไหว้พระทำบุญชมความงดงามของวัดวาอารามต่างๆ ได้เวลากลับมาที่พัก จอดจักรยานไว้ให้เป็นระเบียบ ขึ้นรถสองแถวไปวัดเขาช่องพราน สักการะ พระบรมธาตุบวรวิสุทธิเจดีย์ ชม ถ้ำพระนอนหรือถ้ำพระ พระพุทธบวรศักดิ์สิทธิ์พิชิตมาร พระประธานในอุโบสถ แล้วรอชมอัศจรรย์ของคลื่นสีดำ เคลื่อนตัวเป็นสาย โดยใช้เวลานานนับชั่วโมง จัดเป็นอันซีนของราชบุรี เมื่อฝูงค้างคาวจำนวนมากมายหลายร้อยล้านบินออกหากินเป็นเวลาทุกวัน ได้เวลานั่งรถกลับมาเดินชม ตลาดหน้าวัดโพธาราม มีของกินอร่อยๆให้เลือกชิมมากมาย ชมวิถี ชีวิตชาวเมืองยามค่ำคืน
คืนนี้พักรวมห้องปรับอากาศ ห้องละ 3-4 คน
ระยะทางวันนี้ประมาณ 90 กม. อาจมากหรือน้อยกว่าได้
วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558
ตื่นเช้ารับอากาศบริสุทธิ์ มีกาแฟ กับปาท่องโก๋ บริการ เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย
07:00 น. ออกเดินทางปั่นไปตลาด เลือกรับประทานอาหารเช้าตามอัธยาศัย แนะนำหมูสะเต๊ะเจ้เช็ง ว่ากันว่ามาถึงโพธารามต้องลองชิม
08:00 น. ปั่นลัดเลาะเลียบแม่น้ำแม่กลอง ชมธรรมชาติสองฝั่งสวยงาม มาวัดคงคาราม วัดมอญที่มีชื่อเสียงเรื่องจิตรกรรมฝาผนังงดงามหาชมได้ยาก อายุไม่ต่ำกว่า 250 ปี ชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ปั่นต่อไปวัดขนอนศึกษาเรื่องราวตำนานหนังใหญ่ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลกที่มีผลงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมเชิงนามธรรม ปั่นชมธรรมชาติริมน้ำมาถึงชุมชนวัดม่วงบ้านมอญ ร่วมย้อนอดีตที่พิพิธภัณฑ์วัดม่วงเรียนรู้เรื่องราววิถีชาวมอญจากอดีตถึงปัจจุบัน
ได้เวลาปั่นไปทานอาหารกลางวันที่ตลาดบ้านโป่ง เลือกกันตามชอบ อิ่มแล้วมารวมพลที่วงเวียนช้าง ปั่นเลาะริมน้ำมาถึงวัดหวายเหนียว อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี พักผ่อนริมน้ำให้อาหารปลา เลาะเลียบริมน้ำต่อไปเข้าสู่อำเภอท่าม่วง สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดถ้ำเขาน้อยและวัดถ้ำเสือเพื่อเป็นสิริมงคล นมัสการพระพุทธรูปปางประทานพรที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม และมีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ชมอุโบสถอัฏมุข ขึ้นสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บนพระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท และชมทัศนียภาพอันงดงามของเขื่อนแม่กลอง จากมุมมองบนยอดเขา ได้เวลาปั่นจักรยานชมทิวทัศน์ต่อไปวัดบ้านถ้ำ ไหวพระทำบุญ พักผ่อนตามอัธยาศัย
ปั่นต่อชมวิถีชุมชนสองข้างทางมาถึงวัดไชยชุมพลชนะสงครามหรือวัดใต้ ชมพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก เป็นที่เก็บรวบรวมเอกสาร หลักฐานภาพเขียน ภาพถ่าย ตลอดจนเครื่องใช้สอยต่างๆอันเกี่ยวกับเหตุการณ์สร้างทางรถไฟสายมรณะกาญจนบุรี – พม่า ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ปั่นต่อไปริมแม่น้ำแควน้อย นำจักรยานลงแพ ล่องแพชมความงดงามของธรรมชาติทิวทัศน์สองฟากฝั่งลำน้ำแควน้อย ระยะทางกว่า 2 ชั่วโมง อาหารเย็นบนแพพร้อมกัน มาถึงจุดจอดแพที่สมพงษ์รีสอร์ท เล่นน้ำให้เย็นชุ่มฉ่ำใจกัน แล้วขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ที่รีสอร์ท
คืนนี้นอนนับดาวบนแพ ริมน้ำแควน้อย ผ่อนคลายกายและใจ สงบเหมือนสายน้ำกับธรรมชาติสวยงามยามค่ำคืน
ระยะทางวันนี้ประมาณ 80 กม. อาจมากหรือน้อยกว่าได้
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
06:30 น. อาหารเช้าพร้อมกัน อิ่มแล้วปั่นจักรยานไปชมความยิ่งใหญ่ของต้นจามจุรียักษ์หรือ ต้นก้ามปูยักษ์ มีอายุมากกว่า 100 ปี ขนาดของลำต้นนั้นมีความใหญ่ยักษ์ถึงขนาด 10 คนโอบ รัศมีทรงพุ่มของต้นเฉลี่ยประมาณ 25.87 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของร่มเงาใหญ่ประมาณ 51.75 เมตร ความสูงของต้นจากพื้นดินสู่ยอดต้นประมาณ 20 เมตร และเนื้อที่ของพุ่มนั้นมีถึงประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 4 วา ซึ่งนับว่าหาชมได้ยากมากในปัจจุบัน จากนั้นปั่นชมทิวทัศน์ตามเส้นทางผ่านฟาร์มม้า ไปดูค้างคาวกิตติที่ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก (โดยน้ำหนัก) โดยมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยประมาณ 2 กรัม มีความยาวปีกเหยียด 2 ข้าง (wingspan) ประมาณ 15 ซม. ความยาวแขนช่วงข้อมือถึงข้อศอก (forearm) ประมาณ 25 มม. ค้างคาวกิตติถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ถ้ำวังพระในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ในปี พ.ศ. 2516 โดย คุณกิตติ ทองลงยา นักอนุกรมวิธานชาวไทย ซึ่งหลังจากได้มีการตรวจสอบและทบทวนเอกสารทางด้าอนุกรมวิธานแล้ว จึงได้รับการประกาศเป็นชนิดใหม่ของโลก (new species) ในปี พ.ศ. 2517
ปั่นกลับ นำจักรยานลงแพ พักผ่อนตามอัธยาศัย ล่องแพชมทิวทัศน์สวยงามสายน้ำแควน้อย
11:00 น. มาถึงท่าขึ้นแพ ปั่นต่อตามเส้นทาง อาหารกลางวันระหว่างทางตามอัธยาศัย เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน แวะชมสุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูน หรือ สุสานเขาช่องไก่ ต่อมาถ้ำเขาปูน มาถึงวัดพุหว้า พักผ่อนชมความงดงามของวัด ได้เวลาปั่นขึ้นเนินลงเนินข้ามช่องเขามาถึงสวนไทรโยค เข้าที่พักบนแพ จากนั้นสนุกสนานกับการลงเล่นน้ำ คลายร้อน ด้านหน้าแพตามอัธยาศัย
18:00 น. อาหารเย็นพร้อมกัน
คืนนี้พักที่แพห้องปรับอากาศ ห้องละ 4 คน
ระยะทางวันนี้ประมาณ 70 กม. อาจมากหรือน้อยกว่าได้
วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2558
06:00 น. เดินชมความสวยงามกับธรรมชาติยามเช้าที่ทางรถไฟสายมรณะไปถ้ำกระแซ แล้วกลับมาลงเล่นน้ำต่อ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย
08:00 น. อาหารเช้าพร้อมกัน อิ่มแล้วออกเดินทางชมธรรมชาติตามเส้นทางไปอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งแรกของไทย ชมโบราณสถานศิลปะขอมแห่งเดียวของเมืองกาญจนบุรี จากนั้นปั่นต่อชมวิถีชีวิตชุมชน อาหารกลางวันระหว่างทางตามอัธยาศัย ปั่นต่อไปชมสะพานข้ามแม่น้ำแควที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่น ได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร สร้างขึ้นซึ่งใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน และได้รับการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
จากนั้นปั่นไปชมหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดเทวสังฆาราม หรือวัดเหนือ มนัสการหลวงพ่อโตที่วัดญวนหรือวัดถาวรวรารามที่อยู่ติดกัน ได้เวลาปั่นเที่ยวชุมชนปากแพรก ชมอาคารบ้านโบราณทั้งที่เป็นตึกและเป็นไม้แบบโปรตุกีส แต่ละหลังงดงามด้วยสถาปัตยกรรมต่างยุค และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผ่านมารุ่นต่อรุ่น รวมทั้งบ้านสำคัญอีกหลังคือบ้านบุญผ่อง แอนด์บราเดอร์ เป็นมรดกตกทอดจากนายบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ วีรบุรุษสงครามของทางรถไฟสายมรณะ ปั่นต่อเข้าที่พักบ้านมะเฟือง พักห้องละ 3คน
อาหารเย็นตามอัธยาศัยที่ตลาดโต้รุ่งหรือตลาดปากแพรกหรือริมน้ำแคว แล้วแต่ชอบ... ปั่นจักรยานหรือเดินชมเที่ยวเมืองกาญจน์ยามค่ำคืน
ระยะทางวันนี้ประมาณ 70 กม.อาจมากหรือน้อยกว่าได้
วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม 2558
ตื่นเช้าเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย
07:00 น. ปั่นจักรยานไปทานอาหารเช้าที่ตลาด ตามอัธยาศัย อิ่มแล้วปั่นต่อตามเส้นทางกลับกรุงเทพฯ
ระยะทางวันนี้ประมาณ 100 กม. อาจมากหรือน้อยกว่าได้
รายละเอียดทริป
• ตรวจเช็คสภาพรถจักรยานให้พร้อมปั่น ควรเป็นจักรยานเสือภูเขา เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางราดยาง มีทางขึ้นเนินลงเนินบ้าง
• บรรทุกสัมภาระเอง ไม่ต้องนำเต็นท์และถุงนอนมา ไม่มีรถบริการ
• พักโรงแรม 2 คืน นอนแพ 2 คืน นอนรวมห้องละ3-4 คน เนื่องจากที่พักมีจำกัด
• เตรียมหมวกกันน๊อค หมวกผ้า ครีมกันแดด กระติกน้ำดื่ม สายล๊อกจักรยาน ถุงแขน ไฟหน้า ไฟท้าย เสื้อกันฝน ยางในอะไหล่ ชุดปะยาง รองเท้าแตะสวมสบาย ของใช้จำเป็นของแต่ละท่าน
• ค่าสมัครร่วมทริปเพียง 2,100 บาท รวม อาหาร 4 มื้อ ที่พักโรงแรมห้องปรับอากาศ 2 คืน ที่พักแพห้องปรับอากาศ 1 คืน ที่พักแพพัดลม 1 คืน ค่ารถสองแถว ค่าบริการอื่นๆ
• ควรทำประกันอุบัติเหตุของแต่ละท่านเอง (จำเป็น) ทุกท่านที่ร่วมเดินทางต้องมีประกันอุบัติเหตุ
• แจ้งชื่อ นามสกุล อายุ หมายเลขโทรศัพท์ให้ชัดเจน ถูกต้อง แล้วโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเลขที่ 067-1271240 ชื่ออัมพร ลีอำนวยโชค ภายในวันที่ 22 เมษายน 2558
• สมัครร่วมกิจกรรมหรือสอบถามได้ที่ อาจารย์แชล่ม 089-5238503 หรือคุณอัมพร 081-9200454 รับจำนวนจำกัดเพียง 30 ท่านเท่านั้น
• นำและดูแลทริปโดยอาจารย์แชล่ม ชมรมจักรยานมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
• รายการข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
สองน่อง ล่องแพที่เมืองกาญจน์
Reviewed by zangzaew
on
15:00
Rating:
