❝จักรยานขึ้นรถไฟ..ไหงแพงกว่าเรา❞
การนำจักรยานขึ้นรถไฟไทย เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอยุธยาไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแต่นำจักรยานไปดำเนินการแจ้งพัสดุกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะพิจารณาเจ้าจักรยานและเรียกเก็บค่าระวาง จักรยานหนึ่งคัน ค่าใช้จ่าย 90 บาท ส่วนค่าโดยสารบุคคลนั้น เพียงแค่ 20 บาทเท่านั้นเอง.. ( โอ..ค่าโดยสารของเจ้าสองล้อ แพงกว่าเราอีกแฮะ.. T_T )
ขบวนรถไฟโดยสารไปอยุธยานั้น คือขบวนกรุงเทพฯ - เด่นชัย สถาพรถไม่อยากอธิบายมาก เพราะเป็นขบวนรถไฟโบราณ ที่เพื่อนจักรยานซึ่งร่วมเดินทางด้วยกันครั้งแรก เอ่ยถามว่า "ขบวนนี้มันน่าจะสักร้อยปีได้ป่าวหว่า!?" โห.. ไม่กล้าตอบเลยแฮะเรา.. เอาน่าอย่างน้อย ๆ มันก็นำพาประชาชนไปสู่จุดหมายในราคาสุดประหยัดได้ก็แล้วกัน หากไม่ค่อยเจริญสายตาเท่าไร ก็นั่งหลับไปเสียประเดี๋ยวก็ถึงแล้ว.. เนอะ... ^_~!
ควรจัดเตรียมเชือกสำหรับมัดยึดกับตู้ให้พร้อม ล็อคกุญแจไว้ด้วยก็จะดี ( เพื่อเพิ่มความมั่นใจ..แต่ก็เป็นห่วงอยู่ดี ฮี่.. ฮี่.. -_-!) อาจจะมีผ้าหรืออะไรบางอย่าง สำหรับคลุมจุดสำคัญที่อาจจะเกิดจากการกระแทกเสียดสีตัวรถ ให้เป็นริ้วรอยแห่งความเศร้าใจสำหรับคนรักจักรยานคันงามไปด้วย เพื่อปกป้องผิวสัมผัสของรถสุดที่รัก แต่หากของใครไว้ลุยไม่สนริ้วรอย ก็ไม่ต้องกังวล.. เพราะมันเกิดขึ้นได้แน่...
ตู้โดยสารชั้นที่ 3 ของรถไฟไทยนี้ มีทั้งตั๋วชนิดระบุที่นั่ง และตัวชนิดไม่ระบุที่ยืน..!? หมายถึงสามารถยืนระเกะระกะตามทางเดินได้ ข้อควรระวังคืออย่างไปเกะกะทางสัญจรบนตู้รถไฟ ต้องคอยรบคอยหลีกผู้โดยสารท่านอื่น และเจ้าหน้าที่จำหน่ายอาหาร ที่มักจะเดินสวนไปมาอยู่ทุก ๆ ห้านาที จนกว่าอาหารที่จัดมาจำหน่ายจะหมดลงไปนั่นหละ
บ่อยครั้งที่ผู้ซื้อตั๋วภายหลัง จะได้ตั๋วชนิดไม่ระบุที่ยืนมา แต่พอขี้นรถไฟตั้งแต่ต้นทาง พบว่าที่นั่งยังว่างอยู่ จึงรีบจับจองในบัดดล นั่งคุยนั่งเม้าท์นั่งหลับกันจนเพลิดเพลิน ไปได้ประมาณ 2 - 3 สถานี จะมีผู้โดยสารพร้อมสัมภาระ เดินมาเมียงมองหมายเลขที่นั่งที่เรายึดครองอยู่ ขอให้รีบนำตั๋วมาพิจารณาทันที ว่ามันระบุที่นั่งหรือไม่ แล้วรีบลุกออกมาเสีย.. ไม่เช่นนั้นจะโดนมองด้วยสายตาไม่น่าภิรมย์ นั่นมันที่นั่งของเขานี่นา อีกทั้งชั้นวางของเหนือศรีษะยังเป็นของเขาอีกด้วย..
จะว่าไปสัมภาระที่นำติดตัวยังถูกจำกัดเสียด้วย ยามเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วค่อย ๆ แทรกตัวผ่านผู้โดยสารมาถึง เขาจะสังเกตสัมภาระเหนือศรีษะของผู้โดยสาร ก่อนที่จะสอบถามและนับจำนวนว่าของใครกี่ชิ้น หากเกิดงามเมื่อไร... เป็นจ่าย..! เท่าที่สังเกตเห็นว่าหากสัมภาระไม่เกินสองชิ้นพอเหมาะ มักจะอยู่ในอัตราจำกัดที่รับได้ ไม่ต้องเสียเงินค่าระวางเพิ่มเติม ฉะนั้นจัดให้พอดีอยู่ในสองชิ้นแน่น ๆ
ใช้เวลาพอประมาณ.. ชมวิวรอบข้าง.. สนทนากับเพื่อนจักรยานรวมทางพอสนินสนมกัน สัญญาณแจ้งถึงสถานีรถไฟเมืองกรุงเก่าก็ดังขึ้นแล้ว.. ให้รีบเตรียมตัวนำสัมภาระตัวเองแจ้นลงไปจากตู้โดยสาร และจ้ำอ้าวไปตู้สัมภาระเพื่อจัดการปลดเจ้าสองล้อสุดที่รักลงมาโดยไว เพราะรถไฟจะจอดไม่กี่นาที เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีต่อไป
❝จักรยานขึ้นรถไฟ..ไหงแพงกว่าเรา❞
Reviewed by zangzaew
on
06:00
Rating:
