❝สารคดี..สำหรับคนรักจักรยาน❞
นิตยสารสารคดี ฉบับเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ เป็นปีที่ ๒๖
ฉบับที่ ๓๐๙ ขึ้นหน้าปกเป็นภาพด้านหลังของสองนักปั่นจักรยาน
พร้อมคำโปรยบนปกหน้าว่า "จักรยาน
ทางเลือกของการเดินทางในเมืองใหญ่"
ย่อมสะดุดตาผู้ที่สนใจเรื่องราวของจักรยานอย่างแน่นอน..
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สนใจการใช้จักรยานในเมือง
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของรายจ่าย ที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กับรายได้
ตลอดจนกระแสของปัญหาสภาวะโลกร้อน ที่เห็นปัญหาและผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เป็นอีกหนึ่งฉบับของนิตยสาร สารคดี ซึ่งจัดทำเรื่องราวเกี่ยวกับจักรยาน โดยเล็งเป้าไปที่เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้จักรยานในชีวิตจริง ของคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในสังคมแห่งความเร่งรีบ ศิวิไลซ์ และใช้เทคโนโลยีกันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสิ่งแวดล้อม..
สารคดีเด่นของฉบับนี้ คือเรื่อง "จักรยาน ทางเลือกของการเดินทางในเมืองใหญ่" ซึ่งเป็นผลงานของ คุณสุเจน กรรพฤทธิ์ ( นักเขียน ) และคุณบันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช ช่างภาพสารคดี ที่ให้ความสนใจกับการขี่จักรยานอย่างจริงจังมาประมาณ ๒ ปี เขามีดีกรีพ่วงท้ายที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นประกาศนียบัตรด้านการถ่ายภาพจาก Thomson Education Direct สหรัฐอเมริกา และปริญญาด้านธุรกิจการเกษตรจาก มสธ. ( ยินดีที่ได้รู้จักกับศิษย์สำนักเดียวกัน เพียงแต่คนละคณะ.. ^_^ ) ประกอบกับมีความเชี่ยวชาญชำนาญหลายอย่าง ทำให้เขาได้รับฉายา ดร.บัน ตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยวิจัย ประจำสำนักงานสารคดีไปโดยปริยาย ( จากข้อความแนะนำตัวในหน้า ๑๓ )
ดร. บัน ( ขอเรียกอย่างนี้เลยก็แล้วกัน ) และคุณสุเจน เกริ่นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุษย์ในทุกๆ ด้าน ซึ่งทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วยความเครียดของคนใช้รถใช้ถนน ที่ต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต ไปกับการจารจรบนท้องถนน เพิ่มความเครียด เติมความหงุดหงิดเข้าไปในสมองโดยอัตโนมัติเป็นประจำสม่ำเสมอ.. ( ไม่ได้ชอบ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ )
รถยนต์คือนวัตกรรมที่ถูกเขียนถึงว่า มันเป็นพาหนะที่เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกมากมายแก่มนุษย์ ขณะเดียวกันมันได้กลายเป็นปัญหา ดูดกินสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นตัวปล่อยก๊าชเรือนกระจก จนส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อน เมื่อเปรียบเทียบกับจักรยาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาไม่ต่างกันมากนัก แต่กลับเป็นยานพาหนะที่ถูกเมินไปจากความสนใจ ทว่า.. บัดนี้ จักรยานกลับมาเป็นหนึ่งในความหวัง และทางออกที่จะช่วยลดปัญหาของการเกิดสภาวะเรือนกระจกอีกครั้ง
ผู้เขียนได้เรียงร้อยเรื่องราว จากการค้นคว้าหาข้อมูล และติดตามผู้ใช้จักรยานจริงๆ ในเมือง ตั้งแต่ที่มาของจักรยานในเมืองไทย ซึ่งสมัยอดีตถูกเรียกว่า "รถถีบ" และประมาณกันว่าน่าจะเข้ามาเมืองไทยเมื่อว่า ๑๐๐ ปีมาแล้ว โดยมีข้อมูลอ้างอิงจากข้อเขียนของคุณอเนก นาวิกมูล ผู้ศึกษาค้นคว้าถึงที่มาของจักรยานในเมืองไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับจ้าวนายในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
นับแต่นั้นมา.. กลายเป็นช่วงยุคทองของจักรยานในเมืองไทย จนถึงกับมีพ.ร.บ.ล้อเลื่อน และมีใบขับขี่รถจักรยานสองล้อเกิดขึ้นในยุคอดีตอันรุ่งเรือง ใครที่ไม่เคยเห็นใบขับขี่จักรยานสองล้อตลอดชีพ ต้องพลิกไปชมในหน้า ๑๒๓ ของนิตยสารสารคดีฉบับนี้เป็นบุญตา..
นอกจากการเร่ิมต้นของบทความสารคดีที่น่าอ่านข้างต้นแล้ว ยังมีเรื่องราวของ ทางจักรยานในกรุงเทพฯ ที่ไม่น่าเชื่อว่า ถูกบรรจุอยู่ในนโยบายมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยงบประมาณนับหมื่นล้านต่อปี แต่ดูเหมือนว่าจะขยับขับเคลื่อนไปได้เชื่องช้ามาก ในบทความได้ให้รายละเอียดไว้อย่างครบถ้วน ตลอดจนติดตามสอบถามความคิดเห็นจากผู้ใช้จักรยานตัวจริง ในการเดินทางเป็นประจำของชีิวิตในเมืองกรุง ซึ่งสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างให้ได้ทราบ อีกทั้งยังได้สรุปสารพัดปัญหาคาใจ ที่ทำให้คนในเมืองใหญ่ไม่ขี่จักรยานเอาไว้ ๕ ข้อ อย่างโดนใจ
ยังมีเรื่องราวของการใช้จักรยานในต่างจังหวัดอีกหลายแห่งที่น่าอ่านภายใน เล่ม และบทความสัมภาษณ์ ปีเตอร์ เบเรกครี นักปั่นจักรยานรอบโลกชาวออสซี่ ที่สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่าง จากการใช้ชีวิตบนหลังอานไปทั่วโลก
และที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษภายในเล่มนี้ คือ ภาพผลงานการ์ตูนของคุณ ตะวัน จันทราสกาววงศ์ ซึ่งได้รับรางวัลที่ ๑ ในการประกวดการ์ตูนหัวข้อ "SHOW ME A REASON TO BIKE" พลิกไปดูให้ได้ ในหน้า ๒๗ ...ถูกใจจริงๆ
URL: www.sarakadee.com
เป็นอีกหนึ่งฉบับของนิตยสาร สารคดี ซึ่งจัดทำเรื่องราวเกี่ยวกับจักรยาน โดยเล็งเป้าไปที่เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้จักรยานในชีวิตจริง ของคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในสังคมแห่งความเร่งรีบ ศิวิไลซ์ และใช้เทคโนโลยีกันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสิ่งแวดล้อม..
สารคดีเด่นของฉบับนี้ คือเรื่อง "จักรยาน ทางเลือกของการเดินทางในเมืองใหญ่" ซึ่งเป็นผลงานของ คุณสุเจน กรรพฤทธิ์ ( นักเขียน ) และคุณบันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช ช่างภาพสารคดี ที่ให้ความสนใจกับการขี่จักรยานอย่างจริงจังมาประมาณ ๒ ปี เขามีดีกรีพ่วงท้ายที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นประกาศนียบัตรด้านการถ่ายภาพจาก Thomson Education Direct สหรัฐอเมริกา และปริญญาด้านธุรกิจการเกษตรจาก มสธ. ( ยินดีที่ได้รู้จักกับศิษย์สำนักเดียวกัน เพียงแต่คนละคณะ.. ^_^ ) ประกอบกับมีความเชี่ยวชาญชำนาญหลายอย่าง ทำให้เขาได้รับฉายา ดร.บัน ตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยวิจัย ประจำสำนักงานสารคดีไปโดยปริยาย ( จากข้อความแนะนำตัวในหน้า ๑๓ )
ดร. บัน ( ขอเรียกอย่างนี้เลยก็แล้วกัน ) และคุณสุเจน เกริ่นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุษย์ในทุกๆ ด้าน ซึ่งทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วยความเครียดของคนใช้รถใช้ถนน ที่ต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต ไปกับการจารจรบนท้องถนน เพิ่มความเครียด เติมความหงุดหงิดเข้าไปในสมองโดยอัตโนมัติเป็นประจำสม่ำเสมอ.. ( ไม่ได้ชอบ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ )
รถยนต์คือนวัตกรรมที่ถูกเขียนถึงว่า มันเป็นพาหนะที่เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกมากมายแก่มนุษย์ ขณะเดียวกันมันได้กลายเป็นปัญหา ดูดกินสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นตัวปล่อยก๊าชเรือนกระจก จนส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อน เมื่อเปรียบเทียบกับจักรยาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาไม่ต่างกันมากนัก แต่กลับเป็นยานพาหนะที่ถูกเมินไปจากความสนใจ ทว่า.. บัดนี้ จักรยานกลับมาเป็นหนึ่งในความหวัง และทางออกที่จะช่วยลดปัญหาของการเกิดสภาวะเรือนกระจกอีกครั้ง
ผู้เขียนได้เรียงร้อยเรื่องราว จากการค้นคว้าหาข้อมูล และติดตามผู้ใช้จักรยานจริงๆ ในเมือง ตั้งแต่ที่มาของจักรยานในเมืองไทย ซึ่งสมัยอดีตถูกเรียกว่า "รถถีบ" และประมาณกันว่าน่าจะเข้ามาเมืองไทยเมื่อว่า ๑๐๐ ปีมาแล้ว โดยมีข้อมูลอ้างอิงจากข้อเขียนของคุณอเนก นาวิกมูล ผู้ศึกษาค้นคว้าถึงที่มาของจักรยานในเมืองไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับจ้าวนายในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
นับแต่นั้นมา.. กลายเป็นช่วงยุคทองของจักรยานในเมืองไทย จนถึงกับมีพ.ร.บ.ล้อเลื่อน และมีใบขับขี่รถจักรยานสองล้อเกิดขึ้นในยุคอดีตอันรุ่งเรือง ใครที่ไม่เคยเห็นใบขับขี่จักรยานสองล้อตลอดชีพ ต้องพลิกไปชมในหน้า ๑๒๓ ของนิตยสารสารคดีฉบับนี้เป็นบุญตา..
นอกจากการเร่ิมต้นของบทความสารคดีที่น่าอ่านข้างต้นแล้ว ยังมีเรื่องราวของ ทางจักรยานในกรุงเทพฯ ที่ไม่น่าเชื่อว่า ถูกบรรจุอยู่ในนโยบายมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยงบประมาณนับหมื่นล้านต่อปี แต่ดูเหมือนว่าจะขยับขับเคลื่อนไปได้เชื่องช้ามาก ในบทความได้ให้รายละเอียดไว้อย่างครบถ้วน ตลอดจนติดตามสอบถามความคิดเห็นจากผู้ใช้จักรยานตัวจริง ในการเดินทางเป็นประจำของชีิวิตในเมืองกรุง ซึ่งสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างให้ได้ทราบ อีกทั้งยังได้สรุปสารพัดปัญหาคาใจ ที่ทำให้คนในเมืองใหญ่ไม่ขี่จักรยานเอาไว้ ๕ ข้อ อย่างโดนใจ
ยังมีเรื่องราวของการใช้จักรยานในต่างจังหวัดอีกหลายแห่งที่น่าอ่านภายใน เล่ม และบทความสัมภาษณ์ ปีเตอร์ เบเรกครี นักปั่นจักรยานรอบโลกชาวออสซี่ ที่สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่าง จากการใช้ชีวิตบนหลังอานไปทั่วโลก
และที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษภายในเล่มนี้ คือ ภาพผลงานการ์ตูนของคุณ ตะวัน จันทราสกาววงศ์ ซึ่งได้รับรางวัลที่ ๑ ในการประกวดการ์ตูนหัวข้อ "SHOW ME A REASON TO BIKE" พลิกไปดูให้ได้ ในหน้า ๒๗ ...ถูกใจจริงๆ
URL: www.sarakadee.com
❝สารคดี..สำหรับคนรักจักรยาน❞
Reviewed by zangzaew
on
06:00
Rating:
